พวกเราถูกโน้มน้าวให้ซื้อฮาร์ดไดรฟ์ให้ดีกว่าแบบเดิม แต่อย่าคิดว่านี่ไม่ได้หมายความว่า SSD จะไม่ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถมองข้าม บริการกู้ข้อมูลเพื่อขอความช่วยเหลือ ไดรฟ์ SSD อาจไม่สามารถปกป้องไฟล์ได้ดีไปกว่าไดรฟ์แบบดั้งเดิมที่หมุนรอบ 7,200 รอบต่อนาทีเลย
ดิสกแบบ SSD อาจเสียหาย เนื่องจากการ cell ของมันมีอายุการเขียนข้อมูลซ้ำ หากธุรกิจของท่านใช้ SSD และถ้ามันมีความจุ(ในส่วนสำรอง) ไม่มากพอสำหรับการเขียนข้อมูลเหล่านั้น อาจทำให้เกิดการ ลบข้อมูลบางส่วน(ที่ถูกลบไปแล้ว) และ Defrag ข้อมูล ซึ่งการ Defrag จะทำให้ SSD อายุสั้นลงมากๆ
เหตุใดธุรกิจอาจต้องการ กู้คืนข้อมูล หากประสบปัญหาเหล่านี้
ในบางกรณี ข้อมูลจากไดรฟ์ SSD จะไม่สามารถกู้คืนได้โดยใช้เซอร์วิสการกู้คืนฮาร์ดดิสก์มาตรฐาน บริษัท ใช้ฮาร์ดไดรฟ์แบบเดิม หากเกิดความล้มเหลวขึ้น ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญในการกู้คืนข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญอาจไม่สามารถกู้ข้อมูลคืนได้ หากพื้นที่ไม่เพียงพอ (ถูกเขียนทับหรือ Defrag ไปแล้ว) อย่างไรก็ตามคุณสามารถเพิ่มกำลังสำรองเพื่อให้หน่วยเก็บข้อมูล ของคุณมีหน่วยความจำที่เพียงพอสำหรับข้อมูลทั้งหมด และรวมไปถึงป้องกันไม่ให้เกิดการ ลบข้อมูลด้วยตัว SSD เอง บางส่วน และ การ Defrag อีกด้วย
อนึ่ง การศึกษาพบว่าการปรับปรุงความจุสำรองที่เพิ่มขึ้นยังช่วยเพิ่มความเร็วในการเขียนแบบสุ่มของ SSD ได้ถึง 19 เท่า ซึ่งอาจทำให้ไดรฟ์ solid-state มีประโยชน์คล้ายๆในรูปแบบฮาร์ดไดรฟ์แบบเดิม ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้การกู้คืนฮาร์ดดิสก์และการดำเนินการระดับมืออาชีพ เพื่อเรียกดูข้อมูลหลังจากการกู้คืน
การใช้งาน SSD กับ RAID 5 จำเป็นหรือไม่?
เมื่อพิจารณาถึงโซลูชันที่มีอยู่ในบริการกู้คืนข้อมูลแล้ว การใช้ SSD ไม่เป็นอันตรายต่อธุรกิจที่ต้องการโซลูชันข้อมูลที่เชื่อถือได้ ปัญหาเกี่ยวกับการเขียนแบบสุ่มของ SSD สามารถแก้ไขได้ เมื่อมีการปรับปรุงความเร็วในการเขียนแบบสุ่ม และเพิ่มความเร็วให้ไดรฟ์แบบ parity-less เพื่อให้มีความสามารถในการจัดเก็บสำรองที่สูงขึ้น
หากเกิดปัญหาคอขวด ที่ทำให้ข้อมูลและความเร็วในการเขียนช้าลง อาจมีการใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหลักในการดำเนินการข้อมูลที่สำคัญมากขึ้น และธุรกิจต่างๆอาจลดค่าใช้จ่ายในการกู้คืนฮาร์ดดิสก์ได้เป็นประจำทุกปี
พิจารณาในด้านความเร็ว แล้ว แน่นอน SSD+RAID5 ย่อมเร็วกว่า HDD+RAID5 แต่แน่นอนว่าไม่ควรใช้ SSD เพียวๆ (NO RAID) เพราะ SSD ก็ยังมีโอกาสพังได้อยู่ครับ
พิจารณาในด้านความเร็ว แล้ว แน่นอน SSD+RAID5 ย่อมเร็วกว่า HDD+RAID5 แต่แน่นอนว่าไม่ควรใช้ SSD เพียวๆ (NO RAID) เพราะ SSD ก็ยังมีโอกาสพังได้อยู่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น